Molar City เมืองที่เม็กซิกันที่มีทันตแพทย์ต่อตารางไมล์มากที่สุดในโลก
Los Algodones เมืองเล็กๆ ในเม็กซิโกที่มีประชากรประมาณ 7,000 คน
มีทันตแพทย์ต่อตารางไมล์มากที่สุดในโลก และเป็นที่รู้จักในชื่อ Molar City
ชาวอเมริกันหลายแสนคนมาเยือน Los Algodones ทุกปี แต่พวกเขาไม่ได้มาเพื่อแสวงหาหาดทราย พวกเขามาเพื่อเคลือบฟันเทียม คลองรากฟัน และทำรากฟันเทียม จากประชากรประมาณ 7,000 คนใน Los Algodones มีประมาณ 600 คนเป็นทันตแพทย์ และถนนสายหลักทั้งสี่ของเมืองเต็มไปด้วยคลินิกทันตกรรมที่ให้บริการหลากหลายในราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายในสหรัฐอเมริกา
ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ประชากรของ Los Algodones เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เนื่องจากเมืองเล็กๆ นี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐฯ แต่ก็มีบางส่วนที่มาจากแคนาดาและแม้แต่ในสหราชอาณาจักรด้วย แม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรงระหว่างคลินิกทันตกรรมในเมืองเล็กๆ ของเม็กซิโก แต่ความต้องการมักจะเกินอุปทานเมื่อพูดถึงบริการทันตกรรม
Los Algodones ตั้งอยู่เหนือพรมแดนจาก Yuma ใกล้จนคุณเดินไปถึงได้เลย เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเล่นยอดนิยมว่า 'Molar City' นานมาแล้วก่อนที่อินเทอร์เน็ตจะเป็นจริงเสียอีก และมันก็ติดอยู่ ทุกวันนี้
มีแม้กระทั่งเว็บไซต์ทางการของ Molar City ที่พยายามจับคู่ธุรกิจทันตกรรมในท้องถิ่นกับลูกค้า และเมืองนี้ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นเมืองหลวงแห่งการท่องเที่ยวทางทันตกรรมของโลก
ช่องทางการตลาดหลักของ Molar City คือคุณจะได้รับบริการทางทันตกรรมในราคาเพียงเศษเสี้ยวของค่าใช้จ่ายในสหรัฐอเมริกา
แต่อย่าปล่อยให้ราคาที่ต่ำหลอกคุณ คุณภาพของบริการได้รับการรายงานว่าอยู่ในอันดับต้น ๆ ทันตแพทย์ที่ดีที่สุดในเม็กซิโกสามารถพบได้ใน Los Algodones และเนื่องจากมีคลินิกทันตกรรมจำนวนมากในเมืองนี้
จึงมีการแข่งขันที่ดีเพื่อเสนอการรักษาที่ดีที่สุดเท่านั้น
เพื่อให้ได้เปรียบเหนือคู่แข่ง คลินิกทันตกรรมใน Molar City อัปเกรดอุปกรณ์ของตนอย่างต่อเนื่อง หลายแห่งจึงใช้โซลูชันและเทคนิคล้ำสมัยที่ไม่มีที่อื่นใช้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทันตแพทย์ต่างชาติจะมาที่ Los Algodones เพื่อเรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ และฝึกฝนด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยที่สุด
ค่าใช้จ่ายที่ไม่แพงและกระบวนการทางทันตกรรมคุณภาพสูงเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ Molar City กลายเป็นศูนย์กลางของบริการทางทันตกรรมประเภทต่างๆ
โดยมีขั้นตอนต่างๆ เช่น รากฟันเทียมและคลองรากฟันซึ่งถูกกว่าค่าใช้จ่ายในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดาประมาณ 50 ถึง 70 เปอร์เซ็นต์
